sudo apt-get install foremost
sudo foremost -v -t doc -i /dev/sdb -o /home/akedemo/output
-v คือ เปิด verbose mode
-t คือ กำหนดชนิดของไฟล์ที่ต้องการจะกู้ Foremost รองรับไฟล์หลายชนิด
ถ้าเราไม่กำหนด Foremost จะค้นและกู้ทุกไฟล์
-i คือ กำหนด input ที่ต้องการกู้ ให้ใส่ mount point ของ device นั้นๆ
หรือถ้าจะกู้จากอิมเมจไฟล์ก็ใส่ path ของอิมเมจไฟล์ลงไป
-o คือ กำหนด output ของไฟล์ที่กู้เสร็จแล้ว
รวมทั้ง log ที่ Foremost สร้างขึ้นด้วย
ถ้าไม่กำหนด ค่าปริยายจะเป็น Working directory ขณะนั้น
sudo chmod a+rwx /home/akedemo/output -R
ในโฟลเดอร์ output
audit.txt คือ log ที่ Foremost สร้างขึ้น
ส่วนไฟล์ที่กู้ได้จะอยู่ในโฟลเดอร์ข้างๆกัน
คัดลอกจาก: http://akedemo.wordpress.com/2009/10/06/recover-files-with-foremost/
Wednesday, December 30, 2009
Saturday, October 24, 2009
Tips for searching at Google
วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการค้น หรือ search ใน Google ก็คือ
1.พิมพ์เป็นประโยคคำถามลงไปตรง ๆ
How long is the great wall of China?
Who was the 10th president of the USA?
Who is the most beautiful woman in the world?
2.พิมพ์เป็นวลีหรือประโยคบอกเล่า แล้วเติมเครื่องหมายดอกจัน ( * ) ตรงที่หมายให้เป็นคำตอบ ทำนองให้ Google เติมคำในช่องว่าง
The longest river in the world is *
The capital of Fiji is *
The oldest person in the world is *
* is the hottest place in the world
Thailand is famous for *
หรือเราอาจจะต้องการรู้ว่า ผู้คนให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวบางอย่างไว้อย่างไรบ้าง ก็หาได้
happiness is *
love is *
3. พิมพ์เป็นวลียาว ๆ ที่ชัดเจนลง ไป โดยให้จินตนาการว่า สิ่งที่เราพิมพ์ลงไปจะเป็นส่วนหนึ่งของคำถามที่คนเขามักจะถามกันในเน็ต หรือเป็นส่วนหนึ่งของบทความ, เนื้อข่าว, หรือเรื่องราว เช่น
the most popular free English-study website in the world
the heaviest man in the world
มี code บางตัวที่น่าจำไว้ใช้ เช่น
1.พิมพ์เครื่องหมาย ~ ไว้หน้าคำค้น เช่น ~study, Google ก็จะค้นหาคำที่มีความหมายเหมือนหรือคล้าย ๆ กับ study ด้วย เช่น
The richest ~person in Thailand *
The poorest ~person in Thailand *
The oldest ~person in Thailand *
2.พิมพ์ intitle:คำค้น จะทำให้ได้คำค้นที่อยู่ในชื่อเรื่อง คือระบุขอบเขตของการค้นให้กระชับขึ้น
intitle:happiness is *
intitle:love is *
3.พิมพ์วลีค้นในเครื่องหมายพูด เช่น “ประโยคสนทนา” จะทำให้ Google ค้นวลีนี้เด๊ะเลย เช่น
I love you because *
intitle:"ประโยคสนทนา"
ดัดแปลงจาก: http://english-for-thais-2.blogspot.com/2009/06/1098-google.html
สิริพงษ์ พงศ์ภิญโญภาพ
1.พิมพ์เป็นประโยคคำถามลงไปตรง ๆ
How long is the great wall of China?
Who was the 10th president of the USA?
Who is the most beautiful woman in the world?
2.พิมพ์เป็นวลีหรือประโยคบอกเล่า แล้วเติมเครื่องหมายดอกจัน ( * ) ตรงที่หมายให้เป็นคำตอบ ทำนองให้ Google เติมคำในช่องว่าง
The longest river in the world is *
The capital of Fiji is *
The oldest person in the world is *
* is the hottest place in the world
Thailand is famous for *
หรือเราอาจจะต้องการรู้ว่า ผู้คนให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวบางอย่างไว้อย่างไรบ้าง ก็หาได้
happiness is *
love is *
3. พิมพ์เป็นวลียาว ๆ ที่ชัดเจนลง ไป โดยให้จินตนาการว่า สิ่งที่เราพิมพ์ลงไปจะเป็นส่วนหนึ่งของคำถามที่คนเขามักจะถามกันในเน็ต หรือเป็นส่วนหนึ่งของบทความ, เนื้อข่าว, หรือเรื่องราว เช่น
the most popular free English-study website in the world
the heaviest man in the world
มี code บางตัวที่น่าจำไว้ใช้ เช่น
1.พิมพ์เครื่องหมาย ~ ไว้หน้าคำค้น เช่น ~study, Google ก็จะค้นหาคำที่มีความหมายเหมือนหรือคล้าย ๆ กับ study ด้วย เช่น
The richest ~person in Thailand *
The poorest ~person in Thailand *
The oldest ~person in Thailand *
2.พิมพ์ intitle:คำค้น จะทำให้ได้คำค้นที่อยู่ในชื่อเรื่อง คือระบุขอบเขตของการค้นให้กระชับขึ้น
intitle:happiness is *
intitle:love is *
3.พิมพ์วลีค้นในเครื่องหมายพูด เช่น “ประโยคสนทนา” จะทำให้ Google ค้นวลีนี้เด๊ะเลย เช่น
I love you because *
intitle:"ประโยคสนทนา"
ดัดแปลงจาก: http://english-for-thais-2.blogspot.com/2009/06/1098-google.html
สิริพงษ์ พงศ์ภิญโญภาพ
Sunday, October 4, 2009
Wired Network - device not managed
Once I manually made /etc/network/interfaces like this
auto lo eth0
iface lo inet loopback
iface eth0 inet static
address 172.20.24.222
netmask 255.255.255.0
network 172.20.24.0
broadcast 172.20.24.255
gateway 172.20.24.254
/etc/resolv.conf
nameserver 202.22.11.39
/etc/init.d/networking restart
to specific a static ip address.
When I wanted to configue it back to DHCP,
I could not use NetworkManager Applet to manage the eth0.
It showed "Wired Network -> device not managed".
Note:
For this, I learned that to configure,
just use the NetworkManager Applet GUI
( /usr/bin/nm-connection-editor ).
Again later I connected Ubuntu to a ADSL modem using pppoeconf
( https://help.ubuntu.com/community/ADSLPPPoE )
and later connected back to a dhcp hub,
the same error appeared.
The solution
========
that work perfectly on both is
changing the content of /etc/network/interfaces to be:
auto lo eth0
iface lo inet loopback
OS: Ubuntu 9.04
auto lo eth0
iface lo inet loopback
iface eth0 inet static
address 172.20.24.222
netmask 255.255.255.0
network 172.20.24.0
broadcast 172.20.24.255
gateway 172.20.24.254
/etc/resolv.conf
nameserver 202.22.11.39
/etc/init.d/networking restart
to specific a static ip address.
When I wanted to configue it back to DHCP,
I could not use NetworkManager Applet to manage the eth0.
It showed "Wired Network -> device not managed".
Note:
For this, I learned that to configure,
just use the NetworkManager Applet GUI
( /usr/bin/nm-connection-editor ).
Again later I connected Ubuntu to a ADSL modem using pppoeconf
( https://help.ubuntu.com/community/ADSLPPPoE )
and later connected back to a dhcp hub,
the same error appeared.
The solution
========
that work perfectly on both is
changing the content of /etc/network/interfaces to be:
auto lo eth0
iface lo inet loopback
OS: Ubuntu 9.04
Thursday, October 1, 2009
Mouse buttons are referred as
Button1 .....Left Mouse Button
Button2.......enter Mouse Button (click-able scroll wheel in some cases)
Button3......Right Mouse Button
Button4........Scroll Wheel Up
Button5.......Scroll Wheel Down
If you have customized your mouse in '/etc/X11/xorg.conf' then these buttons will operate according to that map.
Resource: http://wiki.compiz-fusion.org/CommonKeyboardShortcuts
Button2.......enter Mouse Button (click-able scroll wheel in some cases)
Button3......Right Mouse Button
Button4........Scroll Wheel Up
Button5.......Scroll Wheel Down
If you have customized your mouse in '/etc/X11/xorg.conf' then these buttons will operate according to that map.
Resource: http://wiki.compiz-fusion.org/CommonKeyboardShortcuts
Labels:
linux
Monday, September 28, 2009
to use arrow key on vmware @ ubuntu
OS: Ubuntu 9.04
vmware server 2.0
ถ้าไม่สามารถใช้ arrow key บน vmware ได้
เพิ่มบรรทัดนี้
xkeymap.nokeycodeMap = true
ลงในไฟล์
/home/{username}/.vmware/config
vmware server 2.0
ถ้าไม่สามารถใช้ arrow key บน vmware ได้
เพิ่มบรรทัดนี้
xkeymap.nokeycodeMap = true
ลงในไฟล์
/home/{username}/.vmware/config
Wednesday, September 23, 2009
Briefcase on Unix
โปรแกรม my briefcase บน M$ Window$
ทำ two-way synchronize Files หรือ Folder ได้
คือ ไม่ว่าจะมีการแก้ไขไฟล์ที่ฝั่งใด เมื่อให้มันทำการ check
มันก็จะแจ้ง และให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะทำ action ใด
เช่น update ให้สองฝั่งเท่ากัน หรือ skip เป็นต้น
โปรแกรมบน unix ที่ทำงานเหมือนกัน
มีตัวนึงชื่อ Unison
แต่โดย Default จะ check content ภายในไฟล์ด้วย
จะให้มัน fast check คือ check แค่ size กับ modified date
ทำได้โดย
แก้ไข Profile (เช่น /home/{username}/.unison/default.prf)
เพิ่ม fastcheck = true
เช่น
root = /data/directory1
root = /mnt/directory1
perms = 0
fastcheck = true
perms = 0 เป็นการกำหนดให้ unison ไม่ต้อง sync Permission
แก้ error เวลา sync จาก ext3 กับ ntfs ได้ด้วย
เพิ่มเติม http://www.cis.upenn.edu/~bcpierce/unison/download/releases/stable/unison-manual.html
OS: ubuntu 9.04
สิริพงษ์ พงศ์ภิญโญภาพ
ทำ two-way synchronize Files หรือ Folder ได้
คือ ไม่ว่าจะมีการแก้ไขไฟล์ที่ฝั่งใด เมื่อให้มันทำการ check
มันก็จะแจ้ง และให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะทำ action ใด
เช่น update ให้สองฝั่งเท่ากัน หรือ skip เป็นต้น
โปรแกรมบน unix ที่ทำงานเหมือนกัน
มีตัวนึงชื่อ Unison
แต่โดย Default จะ check content ภายในไฟล์ด้วย
จะให้มัน fast check คือ check แค่ size กับ modified date
ทำได้โดย
แก้ไข Profile (เช่น /home/{username}/.unison/default.prf)
เพิ่ม fastcheck = true
เช่น
root = /data/directory1
root = /mnt/directory1
perms = 0
fastcheck = true
perms = 0 เป็นการกำหนดให้ unison ไม่ต้อง sync Permission
แก้ error เวลา sync จาก ext3 กับ ntfs ได้ด้วย
เพิ่มเติม http://www.cis.upenn.edu/~bcpierce/unison/download/releases/stable/unison-manual.html
OS: ubuntu 9.04
สิริพงษ์ พงศ์ภิญโญภาพ
Tuesday, September 22, 2009
Mount Windows Shared Folders in Ubuntu
OS: Ubuntu 9.04
เปิด nautilus (= window explorer)
แล้วพิมพ์ที่ address bar ว่า smb://{host}/
แล้ว browse ไปยัง folder ที่ต้องการ
Ubuntu จะ auto mount + show ขึ้นมาบน Desktop ให้
แต่ถ้าเจอปัญหา แสดงชื่อไฟล์ภาษาไทยเป็น ???
ให้ manual mount โดยคำสั่ง
sudo mount -t cifs //netbiosname/sharename /mnt/sharename -o username=winusername,password=winpassword,
iocharset=utf8,
file_mode=0666,dir_mode=0666
แทน
ที่มา: http://ubuntuforums.org/showthread.php?t=288534
เปิด nautilus (= window explorer)
แล้วพิมพ์ที่ address bar ว่า smb://{host}/
แล้ว browse ไปยัง folder ที่ต้องการ
Ubuntu จะ auto mount + show ขึ้นมาบน Desktop ให้
แต่ถ้าเจอปัญหา แสดงชื่อไฟล์ภาษาไทยเป็น ???
ให้ manual mount โดยคำสั่ง
sudo mount -t cifs //netbiosname/sharename /mnt/sharename -o username=winusername,password=winpassword,
iocharset=utf8,
file_mode=0666,dir_mode=0666
แทน
ที่มา: http://ubuntuforums.org/showthread.php?t=288534
Subscribe to:
Posts (Atom)